
นพ.วิโรจน์ ตันติโกสุม
ใครที่มีอาการปวดจุกท้อง ท้องอืด ขับถ่ายผิดปกติ ไม่ว่าจะเป็นท้องผูกหรือท้องเสียก็ตามและที่สำคัญคือ มีอาการแบบนี้มาหลายเดือนแล้ว อาการเหล่านี้บอกว่าคุณมีความผิดปกติของลำไส้ หลายท่านคงเคยได้ยินคำว่า โรคลำไส้แปรปรวนเรื้อรัง หรือ IBS (Irritable Bowel Syndrome) โรคนี้จะหมายถึงผู้ป่วยมีอาการหลายๆอย่างที่เกิดจากการทำงานของลำไส้ปั่นป่วน แปรปรวน อย่างเรื้อรัง
เราจะรู้ได้อย่างไรว่าเราเป็น โรคลำไส้แปรปรวน, IBS?
โรคลำไส้แปรปรวน IBS เป็นความผิดปกติของการทำงานร่วมกันระหว่างระบบประสาทกับลำไส้ ความผิดปกติทำให้ลำไส้มีการทำงานมากหรือน้อยกว่าปกติ โดยที่ตัวลำไส้ไม่ได้มีความผิดปกติใดๆ ดังนั้นในการวินิจฉัยโรคลำไส้แปรปรวนIBS ก็จะ ไม่มีวิธีการตรวจใดๆในการที่จะพิสูจน์ว่า ผู้ป่วยเป็นโรคนี้จริง ไม่ว่าจะเป็นการ ตรวจเลือด ตรวจอุจจาระ เอกซ์เรย์ ส่องกล้อง…. ต่างจากบางโรค เช่น การส่องกล้องลำไส้ ในผู้ป่วยโรคมะเร็ง แพทย์ก็จะต้องเห็นก้อนเนื้อมะเร็ง ก็สามารถบอกได้ว่าเป็นโรคมะเร็ง
ผู้อ่านเริ่มสงสัยใช่ไหมครับว่า แล้ว แพทย์รู้ได้อย่างไรว่า ผู้ป่วยเป็นโรคลำไส้แปรปรวนIBS การวินิจฉัยโรคนี้ แพทย์มีหลักอยู่2ประการ คือ
ข้อที่1 โรคลำไส้แปรปรวนIBS ไม่ได้เป็นความผิดปกติที่ตัวลำไส้ ดังนั้นผลการตรวจทั้งหลาย ในผู้ป่วยโรคนี้ ไม่ว่าจะตรวจเลือด, ตรวจอุจจาระ, ส่องกล้องลำไส้ ก็จะไม่พบความผิดปกติ ซึ่งถ้าผลการตรวจอย่างใดอย่างหนึ่งมีความผิดปกติ ก็จะไม่ใช่ โรคลำไส้แปรปรวน เช่นตรวจพบเลือดในอุจจาระ, ส่องกล้องลำไส้แล้วพบก้อนเนื้องอก
ข้อที่2 ลักษณะของอาการต้องเป็นไปตามเกณฑ์ในการวินิจฉัย ROME IV ดังนี้
มีอาการปวดท้อง เป็นๆหายๆ อย่างน้อย 1วันในแต่ละสัปดาห์ ต่อเนื่องกัน 3เดือน และ มีอาการอย่างน้อย2ข้อใน3ข้อต่อไปนี้
- อาการปวดท้องนี้มีความสัมพันธ์กับการถ่ายอุจจาระ หมายถึง อาการปวดอาจจะดีขึ้นหรือมากขึ้นเวลาถ่ายอุจจาระ
- จำวนครั้งในการถ่ายอุจจาระเปลี่ยนไป
- ลักษณะอุจจาระเปลี่ยนไปจากเดิม เช่น อุจจาระเป็นเม็ดก้อนแข็ง, เป็นน้ำเหลว หรือ เป็นทั้งสองอย่างผสมกัน
แต่มีข้อแม้นะครับว่า ลักษณะตามเกณฑ์เหล่านี้ จะต้องเป็นๆหายๆมานานมากกว่า6เดือนขึ้นไป จึงจะวินิฉัยโรคนี้ได้
แล้วจะรู้ได้อย่างไรว่า อาการปวดท้องเรื้อรังนี้ จะไม่เป็นโรคมะเร็งลำไส้?
การที่แพทย์ใช้อาการอย่างเดียวในการที่จะบอกว่าเป็นมะเร็งลำไส้ไหม เป็นเรื่องที่ไม่สามารถบอกได้ แต่ก็มีลักษณะประวัติบางประการ ที่สามารถบอกได้เบื้องต้นว่า อาการปวดท้องเรื้อรังนี้ ไม่น่าจะเป็นโรคลำไส้แปรปรวน IBS
1.อุจจาระมีเลือดปน
2.น้ำหนักลดไม่ทราบสาเหตุ
3.มีไข้ หรือถ่ายเหลวกลางดึก
4.ซีดเรื้อรัง
5.มีญาติสายตรงเป็นโรคลำไส้ ก่อนอายุ45ปี เช่น มะเร็งลำไส้, ติ่งเนื้อในลำไส้
แต่การที่แพทย์จะยืนยันว่า ผู้ป่วยเป็นโรคมะเร็งลำไส้หรือไม่นั้น ก็ต้องใช้การตรวจเพื่อยืนยันตั้งแต่ การตรวจหาเลือดในอุจจาระ (FIT test), การส่องกล้องตรวจลำไส้ใหญ่ (colonoscopy) ถ้าตรวจพบติ่งเนื้อ ก็สามารถตัดติ่งเนื้อนั้นมาตรวจลักษณะเซลล์มะเร็งต่อได้ กล่าวโดยสรุปแล้ว การที่ผู้ป่วยที่อายุไม่ถึง50ปี มีอาการปวดท้องเรื้อรังติดต่อกัน3เดือนและเป็นๆหายๆมานานกว่า6เดือน ร่วมกับลักษณะ เกณฑ์ที่เข้าได้กับ โรคลำไส้แปรปรวนIBS และ แพทย์ตรวจไม่พบความผิดปกติอื่นๆ ก็จะวินิจฉัยว่า ผู้ป่วยเป็นโรคลำไส้แปรปรวนIBS อย่างไรก็ตาม การมีอาการผิดปกติเหล่านี้ ควรพบแพทย์โดยเร็วเพื่อทำการตรวจรักษาให้ถูกต้องต่อไป
ศูนย์ส่องกล้องทางเดินอาหาร
รพ.ธัญบุรี ปทุมธานี