หลายคนเป็นโรคหัวใจเต้นผิดจังหวะ แบบ AF แต่ ไม่รู้ตัวว่าเป็นโรคนี้ สาเหตุที่ผู้ป่วยไม่รู้ ก็อาจจะเป็นเพราะว่า เวลาหัวใจเต้นผิดจังหวะแบบ AF ผู้ป่วยไม่ได้มีอาการผิดปกติ อะไร หรือ มีอาการผิดปกติ แต่ไม่รู้ว่า เป็นโรคAF การที่ ผู้ป่วย รู้ว่า ตนเองเป็นโรคอะไร ย่อมทำให้ ผู้ป่วย สามารถทำความเข้าใจกับโรค ไม่ว่าจะเป็น วิธีที่ แพทย์ ตรวจรักษา, การดำเนินไปของโรค, และ ความอันตรายของโรคนี้ ดังนั้น อย่าลืมถาม แพทย์นะครับ ว่า อาการใจสั่นที่เป็น เกิดจาก โรคหัวใจเต้นผิดจังหวะ AF นี้ หรือไม่?
โรคหัวใจเต้นผิดจังหวะ AF พบได้ในคนทุกอายุ แต่จะพบมากสุด ก็คือ ในผู้สูงอายุ ประมาณกันว่า ผู้สูงอายุ ที่่อายุตั้งแต่ 60ปีขึ้นไป พบ ผู้สูงอายุ ที่มีหัใจเต้นผิดปกติแบบAF ถึง5-10% ยิ่งอายุ มากขึ้น ก็ยิ่งพบมากขึ้น ประมาณว่า ผู้สูงอายุ 80ปีขึ้นไป 100คน จะพบ ผู้สูงอายุ ที่มีใจเต้นผิดปกติ AF 10คน คือถ้า ผู้สูงอายุ มีอาการใจสั่น ก็ต้อง ถามก่อนเลยว่า เกิดจากหัวใจเต้นผิดจังหวะ AF นี้ หรือไม่
ทำไม ผู้สูงอายุ ถึงเป็น โรคใจสั่น แบบ AF บ่อย?
จริงๆแล้ว โรคใจสั่นแบบ AF ก็สามารถ พบได้ในทุกอายุ ส่วนใหญ่ ผู้ป่วยที่อายุไม่มาก แล้วมี ใจสั่นแบบAF มักจะมีสาเหตุชัดเจน เช่น ไทรอยด์เป็นพิษ, เป็นโรคหัวใจ ไม่ว่าจะเป็น โรคลิ้นหัวใจรั่ว หรือ ลิ้นหัวใจตีบ, โรคกล้ามเนื้อหัวใจอ่อนแรง, โรคหลอดเลือดหัวใจ แต่ในผู้สูงอายุที่ไม่มีโรคที่เป็นสาเหตุ ของหัวใจเต้นผิดปกติ AF นี้ อธิบายจากการ เสื่อมของเนื้อเยื่อที่ผนังหัวใจ เช่น การเกิดพังผืด, การเปลี่ยนแปลงการเหนี่ยวนำกระแสไฟฟ้าในหัวใจ ความเสื่อมหลายๆอย่างนี้ ทำให้ เกิดการแปรปรวนของการนำกระแสไฟฟ้าในหัวใจ ทำให้ หัวใจเต้นผิดจังหวะ เป็นแบบ พริ้วรัว จังหวะไม่สม่ำเสมอ โดยอาจจะมีจังหวะการเต้นที่ช้าหรือเร็วก็ได้
รู้ได้อย่างไรว่า ผู้สูงอายุ มีโรคหัวใจเต้นแบบAF?
ผู้สูงอายุ ที่มีโรคหัวใจเต้นAF นี้ มักจะไม่มีอาการ ไม่รู้สึกว่าตัวเองผิดปกติอะไร บางคนอาจจะมีแค่ อาการ อ่อนเพลีย ง่วงนอนตลอด บางคนก็มารู้อีกทีก็ตอนที่เกิด อัมพาต มี แขนขาอ่อนแรง หรือ ตอนเกิด น้ำท่วมปอด ดังนั้น การจะรู้ได้ ก็ต้อง ตรวจชีพจร โดยที่ ผู้สูงอายุ ไม่ได้มีอาการผิดปกติก็ได้ การตรวจชีพจร สามารถทำได้เองที่บ้านนะครับ แนะนำ คลำชีพจรที่ข้อมือ จับอัตราการเต้นที่ 1นาที แล้วก็ดูจังหวะการเต้นว่า สม่ำเสมอไหม แต่เป็นการตรวจเองที่บ้านอย่างง่ายๆ แต่อย่างไรก็แนะนำให้มาพบ หมอหัวใจ ใกล้บ้านนะครับ คุณหมอจะมีวิธีการตรวจร่างกาย การฟังหัวใจ การจับชีพจร และก็การตรวจ คลื่นไฟฟ้าหัวใจ แต่ ฟังดูก็เหมือนง่ายในการวินิจฉัยโรค นะครับ ใช่ครับ ถ้า ผู้สูงอายุมีการเต้นผิดจังหวะแบบถาวร คือ เป็นแบบเต้นผิดจังหวะตลอดเวลา แบบนี้ ตรวจตอนไหนก็ทราบครับว่า หัวใจเต้นผิดจังหวะแบบ AF หรือไม่ แต่ปัญหาคือ ผู้สูงอายุ ที่มี หัวใจเต้นผิดปกติแบบAF ที่เป็นแบบ เต้นผิดปกติ เป็นครั้งคราว หมายถึง เดี่ยวหัวใจเต้นปกติ เดี๋ยวก๊เต้นผิดปกติ สลับไปมา ถ้าจังหวะที่ พา ผู้สูงอายุ ไปพบ คุณหมอ เป็นช่วงที่หัวใจเต้นปกติ คุณหมอก็อาจจะไม่สรุปว่า ผู้สูงอายุ เป็นหัวใจเต้นแบบAF หรือไม่ คือ ประมาณว่า ถ้าตรวจแล้วพบว่า หัวใจเต้นผิดปกติAF ก็สรุปว่าเป็น แต่ถ้าตรวจแล้วหัวใจเต้นปกติ ก็ สรุปได้แค่ว่า ตรวจไม่พบว่าเป็นโรคหัวใจเต้นAF ดังนั้น ใน ผู้สูงอายุ บางคน คุณหมอ อาจจะตัดสินใจตรวจ คลื่นไฟฟ้าหัวใจ แบบติดตามตัว 48 ชั่วโมง ที่เรียกว่า Holter monitoring แล้วก็ให้ ผู้สูงอายุ นำเครื่องกลับบ้านไปเลย เมื่อครบกำหนดเวลาก็นำเครื่องกลับมา โรงพยาบาล เพื่อ วิเคราะห์ คลื่นไฟฟ้าหัวใจ ตลอดเวลาที่มีการบันทึกไว้ ว่า มี ช่วงที่หัวใจเต้นผิดปกติ แบบ AFไหม
หัวใจเต้นผิดปกติแบบ AF สร้างปัญหาอะไรให้ ผู้สูงอายุ ไหม?
น้ำท่วมปอด การที่ หัวใจมีการเต้นแบบ พริ้วรัว ไม่สมำ่เสมอ สามารถก่อปัญหาให้ หัวใจทำงานได้ไม่เต็มที่ บางคนที่มีปัญหาโรคหัวใจร่วมอยู่ด้วย เช่น ลิ้นหัวใจรั่ว, กล้ามเนื้อหัวใจหนาตัว, กล้ามเนื้อหัวใจอ่อนแรง การที่หัวใจเต้นผิดปกติก็เป็นการส่งเสริมให้ ผู้สูงอายุ เกิดปัญหา น้ำท่วมปอด ได้ง่าย
อัมพาต อีกปัญหาหนึ่งที่สำคัญมากใน ผู้สูงอายุ ก็คือ การที่หัวใจเต้นผิดจังหวะแบบ AF นี้ สามารถทำให้เกิดการไหลวนของเลือดในห้องหัวใจ จนเกิดการเกาะกลุ่มของเม็ดเลือด หรือ เกล็ดเลือด กลายเป็นลิ่มเลือด เป็นก้อนในห้องหัวใจ และเมื่อก้อนลิ่มเลือดนี้ลอยออกจากห้องหัวใจ ก็สามารถลอยขึ้นไปในหลอดเลือดในสมอง จนเกิดการอุดตันของหลอดเลือดในสมอง ทำให้สมองขาดเลือด และเกิด อัมพาตในที่สุด
การใช้ยาละลายลิ่มเลือด ป้องกัน อัมพาต คือ ดาบสองคม สำหรับ ผู้สูงอายุ
วิธีการป้องกัน อัมพาต ไม่ว่าจะเป็น ผู้สูงอายุ ที่เป็น อัมพาตไปแล้ว หรือ ผู้สูงอายุ ที่ยังไม่เคยเป็นอัมพาต ก็คือ การใช้ยา ละลายลิ่มเลือด หรือ วาร์ฟาริน ยิ่งผู้สูงอายุ ที่มีอายุมากขึ้น โอกาสที่ผู้สูงอายุ จะเกิดอัมพาต ก็จะยิ่งสูงขึ้น ก็ยิ่งมีความจำเป็นที่จะต้องป้องกัน อัมพาต มากขึ้น ในขณะเดียวกัน การใช้ยาละลายลิ่มเลือด ก็มีความเสี่ยง โดยเฉพาะ ปัญหา เลือดออกในสมองที่เกิดจากยา โดยเฉพาะ ผู้สูงอายุ ที่มีปัญหาทางสมอง เช่น อัลไซเมอร์ พาร์กินสัน รวมไปถึง ปัญหา การล้ม ที่พบบ่อยในผู้สูงอายุ
ดังนั้นการเลือกใช้ยา ละลายลิ่มเลือดนี้ จึงมีทั้ง ประโยชน์ในการป้องกัน อัมพาต แต่ก็ต้องเสี่ยงกับ ปัญหาที่เกิดจากการใช้ยาละลายลิ่มเลือด ซึ่งทั้งแพทย์ ผู้ป่วย และ ญาติ ก็ต้องมาพิจารณาถึง ความเหมาะสมร่วมกัน
นพ.วิโรจน์ ตันติโกสุม
ชีวา บางใหญ่ นนทบุรี
ศูนย์พักฟื้นผู้ป่วย และ ผู้สูงอายุ
คลินิกกายภาพบำบัด
ศูนย์ฟอกไตประสิทธิภาพสูง และ ผ่าตัดเส้นฟอกไต
เวปไซด์ ชีวา www.chewa.co.th
เดินทางมา ชีวา https://goo.gl/maps/CgcGgE6uieUn1naM9
คุยกับเรา ชีวา https://lin.ee/k8UqBKr
โทร ได้ทุกวัน 0909250096 0969088890
ชีวา เป็นศูนย์บริการทางการแพทย์ ตั้งอยู่ใน ซอยกันตนา ใกล้ โรงพยาบาลบางใหญ่ อำเภอ บางใหญ่ นนทบุรี
การบริการประกอบไปด้วย
1 ศูนย์พักฟื้น และ ดูแลผู้สูงอายุ ทั้งแบบพักรายเดือน และ รายวัน เหมาะสำหรับ ผู้สูงอายุ หรือ ผู้ป่วยที่ต้องการการ ดูแลทางการพยาบาล, ทำกายภาพบำบัด หลังอัมพาต หรือ ผ่าตัดข้อ กระดูก, รอฟอกไตทางหลอดเลือด , ดูแลการล้างไตทางหน้าท้อง
2 ศูนย์ฟื้นฟูอัมพาตและ คลินิกกายภาพบำบัด สำหรับผู้ป่วยอัมพาต ที่ต้องการการทำกายภาพแบบเข้มข้น รายเดือน หรือ ทำกายภาพบำบัดแบบไปกลับ
3 ศูนย์ไตเทียม และ ผ่าตัดเส้นฟอกไต โดยผู้ป่วยที่ใช้สิทธิประกันสังคม หรือ บัตรทอง ไม่เสียค่าใช้จ่ายในการฟอกไต ส่วนการผ่าตัดเส้นฟอกไต โดยศัลยแพทย์เฉพาะทางด้านหลอดเลือด ผู้ป่วย บัตรทอง ไม่เสียค่าใช้จ่ายในการผ่าตัดเส้นฟอกไต ส่วน ผู้ป่วยสิทธิประกันสังคม สามารถเบิกค่าผ่าตัดเส้นฟอกไตได้ตามสิทธิ
4 คลินิกโรคหัวใจ ตรวจรักษาโดย อายุรแพทย์หัวใจและหลอดเลือด
Key word
ชีวา , ศูนย์ดูแลผู้สูงอายุ , ศูนย์ไตเทียม , ศูนย์ฟอกไต , ไตวาย , ฟอกไตไม่เสียค่าใช้จ่าย , คลินิกกายภาพบำบัด , คลินิกโรคหัวใจ , คลินิกกายภาพบำบัด , ฟอกไตทางหลอดเลือด , ล้างไตทางหน้าท้อง, ทำเส้นฟอกไต , ฟอกไตบัตรทอง, คลินิกผ่าตัดเส้นฟอกไต, อัมพาต